Tuesday, October 31, 2006

กลับมาแล้วครับ

กลับมาเล้วครับ หลังจากที่หายไปนานเนื่องด้วยภารกิจด้านการศึกษา และการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่ กลับมาคราวนี้พร้อมเรื่องน่าหวาดเสียวนอกเหนือจากเรื่องหุ่นยนต์ คือเผอิญว่าช่วนี้คุณพี่กระต่ายน้อยของผม มีอันชวนคุยเรื่องหนังสือต้องห้ามเล่มหนึ่ง ชื่อแปลเป็นไทยว่า ในหลวงไม่เคยยิ้ม ก็เลยไปลองค้นหาข้อมูลดู ไปเจอบล็อกของนายคนหนึ่ง ชื่อนายแม็ท (ขออภัยที่ต้องเอ่ยนาม) ซึ่งบล็อกของนายคนนี้ก็hostที่Blogger เหมือนกันนี่แหละ แต่เขียนเปนภาษาอังกฤษ เนื้อหาในบล็อกของแกตอนนี้ ก็เกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้นี่แหละครับ ซึ่งผมก็ใช้ความรู้ด้านภาษอังกฤษอันน้อยนิดของผม อ่านcommentของผู้คนไปเรื่อยๆ ก็ไปอ่านcomment ของคุณAnonymous คนหนึ่ง ซึ่งน่าสนใจมาก เพราะมันช่างตรงกับกับสิ่งที่อาจารย์สุจิตต์ วงศ์เทศ เรียกว่าพวกล้าหลัง คลั่งชาติ ซะจริงๆ
เอ่อ...ที่ผมเกริ่มมาตั้งนาน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับที่ผมจะเขียนวันนี้หรอก ปัญหาของผมมันมีอยู่ว่า คือผมอยากจะระบายอะไรสักอย่าง ซึ่งบังเอิญว่า สิ่งที่ผมได้ไปอ่านในบล็อกของคุณแม็ท มันยิ่งมากระตุ้นต่อมอยากระบายของผมให้ทำงานหนักขึ้น ไอ้ครั้นผมจะรัะบายมันลงไปในบล็อกของคุณแม็ท ก็ใช่เรื่อง เพราะไม่ตรงกับประเด็นในบล็อกเค้า และอีกอย่างคือภาษามันไม่อำนวย ผมจึงต้องหันมาที่บล็อกของตัวเอง อันที่จริงผมก้อไม่ได้มีเจตนาจะเขียนบล็อกเพื่อระบายความในใจใดๆ ดังที่จะเห็นได้จากการPostในครั้งแรกๆ ที่เกี่ยวกับศาสนาบ้าง หุ่นยนต์บ้าง แต่ในครั้งนี้อาจแปลกไปสักหน่อย
ที่ผมจะบอกคือ ถึง"คน"บาง"คน" อย่าปิดทางสาธารณะ เพื่อความสุขสบายส่วนตัวของท่านได้มั้ย ถึงบางที ทางสาธารณะบางทางในประเทศ จะริเริ่มสร้างขึ้นโดยบรรพบุรุษของท่าน แต่ผมเชื่อว่า ทางบางทาง มันสร้างขึ้นหลังจากที่ บรรพบุรุษของผม ได้อพยพย้ายถิ่นฐานมาอาศัยในประเทศ และเสียภาษีให้แก่รัฐ เพื่อให้รัฐบาลได้นำเงินมาทำนุบำรุงสร้างความเจริญให้แก่ประเทศชาติ เมือนกับที่ประชาชนทุกคนปฏิบัติโดยเท่าเทียมกันหมดแล้ว ดังนั้น ผมจึงคิดว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ มีสิทธิโดยเท่าเทียมกัน ที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรียกว่า สาธารณะ ครับ
หลายคนคงไม่ปลื้ม จบ